รายงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ข้อมูลเชิงลึกทางสังคมของผู้บริโภคปี 2024
บทสรุปผู้บริหาร
ประเทศไทย | 01 Oct 2023 - 31 Mar 2024
แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ในปี 2024
เมื่อวิเคราะห์รายงานจากปี 2013 เทียบกับข้อมูลเชิงลึกในรายงานฉบับปัจจุบัน มีประเด็นสำคัญใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นดังที่สรุปไว้ ดังนี้:
การหลอกลวงรูปแบบใหม่มุ่งเป้าไปที่ลูกค้าบัตรเครดิต
ข้อความสนทนาที่กล่าวถึงการหลอกลวงบัตรเครดิตได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวและการสนทนาของผู้บริโภคเกี่ยวกับกลุ่มมิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้บัตรเครดิตที่มีวงเงินการใช้จ่ายต่ำ มิจฉาชีพจะเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตชั่วคราวโดยการฝากเงินจำนวนมาก จากนั้นจะซื้อโทรศัพท์ราคาแพง ถอนเงินสด แล้วเอาไปทั้งเงินและโทรศัพท์
มีการหลอกลวงหลายครั้งที่ทำให้ลูกค้าเสียเงินจากบัตรเครดิต เนื่องจากลูกค้าไม่ระมัดระวังในการตั้งรหัสผ่านเข้าอีเมล
ธุรกิจสินเชื่อผิดกฎหมาย – คิดอัตราดอกเบี้ยสูง
มิจฉาชีพทำธุรกิจสินเชื่อผิดกฎหมายโดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ขโมยมา โดยคิดดอกเบี้ยสูงถึง 225% ต่อเดือน ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อต้องเผชิญกับการข่มขู่ ดูหมิ่น และโทรทวงหนี้จากคนในครอบครัว
ธนาคารมีส่วนร่วมมากขึ้นในการกระจายข่าวกลโกง
ธนาคารแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับการหลอกให้จองที่พัก โดยมิจฉาชีพจะขอข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคล ลูกค้าพึงพอใจที่ได้รับการแจ้งเตือนเหล่านี้
สายด่วนรับแจ้งเหตุของรัฐบาลได้รับความนิยม
ผู้บริโภคบอกต่อกันถึงสายด่วนรับแจ้งเหตุฉ้อโกงของรัฐบาล เป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถรายงานอาชญากรรมเกี่ยวกับธนาคารออนไลน์ได้
บทสรุปผู้บริหาร
การวิเคราะห์นี้ใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคเกี่ยวกับข้อกังวลด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน พร้อมด้วยแนวโน้มสำคัญ ความต้องการ และจุดบกพร่อง
12.7kการกล่าวถึง
เกี่ยวกับบัตรและบริการที่ไม่ใช้บัตรที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความมั่นคงในการชำระเงินดิจิทัล
41%เพิ่ม
ในการสนทนาเกี่ยวกับบริการที่ไม่ใช้บัตรเมื่อเปรียบเทียบกับ 6 เดือนก่อนหน้า
คล้ายคลึง
จำนวนการสนทนาเกี่ยวกับบัตรธนาคารยังคงคล้ายคลึงเมื่อเปรียบเทียบกับ 6 เดือนก่อนหน้า
59%ลดลง
การพูดคุยเกี่ยวกับบัตรหาย/ถูกขโมยลดลงเนื่องจากมีการรับรู้เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภค
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับบัตรธนาคาร
การหลอกลวงรูปแบบใหม่ตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้แก่ การฉ้อโกงบัตรเดบิตระหว่างประเทศ กลโกงใช้ประโยชน์จากวงเงินบัตรเครดิต และข้อมูลรั่วไหลจากบัตรสมาชิก
การฉ้อโกงบัตรเดบิตระหว่างประเทศ: ผู้บริโภคพบปัญหาการฉ้อโกงบัตรเดบิตระหว่างประเทศหลังจากใช้บัตรชำระค่ามัดจำรถเช่าทางโทรศัพท์ เนื่องจากการละเมิดความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระบบของบริษัทรถเช่า
กลโกงใช้ประโยชน์จากวงเงินบัตรเครดิต: มิจฉาชีพจะเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตชั่วคราวโดยการฝากเงินจำนวนมาก จากนั้นจะซื้อโทรศัพท์ราคาแพง ถอนเงินสด แล้วเอาไปทั้งเงินและโทรศัพท์
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภครั่วไหลจากบัตรสมาชิกห้างสรรพสินค้า และถูกนำไปใช้โทรขายบัตรเครดิตและสินเชื่อที่ไม่พึงประสงค์
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับบริการที่ไม่ใช้บัตร
มีการถกเถียงกันมากเกี่ยวกับการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์คูปองปลอม การให้กู้ยืมเงินที่ผิดกฎหมายด้วยอัตราดอกเบี้ยสูง และกลโกงการโอนเงินไม่ถูกต้อง
การหลอกขายคูปองออนไลน์ปลอม: เหยื่อถูกหลอกให้ซื้อคูปองปลอมผ่านทางเว็บไซต์คูปองออนไลน์ปลอม
การหลอกให้กู้ยืมเงินที่ผิดกฎหมาย: มิจฉาชีพทำธุรกิจสินเชื่อผิดกฎหมายโดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ขโมยมา โดยคิดดอกเบี้ยสูงถึง 225% ต่อเดือน ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อต้องเผชิญกับการข่มขู่ ดูหมิ่น และโทรทวงหนี้ถึงคนในครอบครัว
กลโกงการโอนเงินผิด: เหยื่อได้รับเงินที่โอนมาโดยไม่คาดคิด จากนั้นมิจฉาชีพจะขอให้คืนเงินโดยการโอนเงินดังกล่าวให้บุคคลที่สาม เหยื่อจะกลายเป็นบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว
การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์
มีการพูดคุยกันมากถึงการโจมตีทางไซเบอร์ว่าเป็นรูปแบบการฉ้อโกงที่กำลังระบาด
ลูกค้าแสดงความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ต่าง ๆ โดยประมาณ 25 % ของข้อความสนทนาเกี่ยวกับประเภทการฉ้อโกงบัตรธนาคารและบริการที่ไม่ใช้บัตรกล่าวถึงการโจมตีทางไซเบอร์ ในช่วงเดือนตุลาคม 2023 - มีนาคม 2024 ธนาคารในประเทศไทยถูกโจมตีทั้งหมด 276 ครั้ง โดย 68 % ดำเนินการผ่านมัลแวร์ การโจมตีอุปกรณ์มือถือ และเทคนิคอีเมลฟิชชิ่ง
ผู้ออกบัตรควรใช้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกด้านไซเบอร์ และสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ไม่สามารถต่อรองได้เพื่อปรับปรุงการควบคุมทางไซเบอร์ของตน